วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

เจาะ 5 แง่มุม สิงโตเจ๊าอัซซูรี่

วิเคราะห์ 5 เงื่อนงำ สิงโตเจ๊าอัซซูรี่





ฝ่ายสิงโตคำราม พวกชาติอังกฤษ เปิดสนามเวมบลีย์สเตเดี้ยม เสมอกับ อิตาลี ไปอย่างน่าเสียดาย 1-1 เพราะว่า เจมี วาร์ดี้ ทำประตูให้ทรีไลออนส์ขึ้นนำ ก่อนที่ VAR จะทำพิษให้ อิตาลี ได้จุดโทษตีเสมอ ในช่วงครึ่งหลัง

พร้อมด้วยนี่คือ 5 ประเด็นหลังเกมอุ่นเครื่องนัดนี้

1. ฟอร์มอันเจิดจรัสของ สเตอร์ริง



นัดนี้ ราฮีม เล่นได้อย่างโดดเด่น เป็นหัวใจ พร้อมทั้งทุกอย่างของกลุ่มชาติอังกฤษ สร้างปัญหาให้กับแนวรับอัซซูรีได้ตลอดเวลา อาจพาบอลไปกับตัวได้ดี มีความมั่นใจในความเก่ง เอาตัวรอดได้ในสถานการณ์คับขัน พร้อมกับเป็นผู้ทำให้อังกฤษได้ฟรีคิกจนนำไปสู่ประตูขึ้นนำ 1-0

2. กรุ๊ปมีทิศทางที่ดีขึ้น



ภายหลังที่ยังตั้งตัวไม่ติดในช่วง 20 นาทีแรก เกือบจะเสียประตูหลายครั้ง แต่พลพรรคทรีไลออนส์ก็เกริ่นคลำหาทิศทางการเล่นของตัวเองเจอ

มันอาจจต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่หมู่ชาติอังกฤษจะบุกเบิกเชื่อมั่นในตัวเอง หลังจากที่พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในความล้มเหลวมาหลายปีติดต่อกัน

นี่คือสิ่งที่อังกฤษพัฒนาขึ้น กับกลุ่มนักเตะที่ได้เล่นในหมู่ชั้นนำในประเทศ พร้อมด้วยยังได้ลงเล่นฟุตบอลยุโรปอย่างต่อเนื่อง พวกเขาดูจะค้นพบทิศทางที่ชัดเจนของตัวเองในยุคของ เซาท์เกต แล้ว

3. อุ่นใจจนกระทั่งมี วาร์ดี้



ประตุแรกของปีพร้อมทั้งประตูขึ้นนำของเขา เป็นการตอกกลับคำวิจารณ์ที่เจ้าตัวได้รับยามเล่นให้กลุ่มชาติ

ดาวยิงของเลสเตอร์ เชี่ยวชาญทำประตูใส่่พวกใหญ่ของยุโรปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น สเปน, เยอรมนี พร้อมด้วย ฮอลแลนด์ เขายังคงเป็นผู้เล่นที่เหมาะกับเกมใหญ่ ด้วยกันแน่นอนว่ามีหนึ่งที่ว่างเนื่องด้วยเขาในฟุตบอลโลกหนนี้เรียบร้อยแล้ว

4. อนาคตของ เดเล อัลลี?



2 เกม ที่ปราศจาก เดเล อัลลี ทำให้แฟน ๆ ต่างเลิกสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับตัวรุกของไก่เดือยทอง

จากที่เคยเป็นความหวังของทีมชาติอังกฤษยุคใหม่ พร้อมทั้งภายหลังที่เปลี่นนเอเยนต์จนถึงปีที่แล้ว ทำให้เริ่มทำมีเสียงวิจารณ์ถึงอนาคตมากขึ้นทุกที

แน่นอนว่า เขาอาจจักไม่ได้กลายเป็นนักเตะที่เลวร้ายไปในชั่วข้ามคืน ด้วยกัน เซาท์เกต ก็คงบ้าเต็มทีถ้าหากไม่หนีบดาวเตะผู้นี้ขึ้นเครื่องไปรัสเซียด้วย

แต่ 2 นัดที่เปลี่ยนมาก็คงทำให้ผู้จัดการคณะชาติอังกฤษเห็นอะไรบางอย่าง ในทีมที่ปราศจาก อัลลี และผลการแข่งขันที่ออกมาที่ค่อนข้างน่าพอใจ

5. ลินการ์ด ยังรักษาฟอร์มได้ดี



ตำแหน่งของ อัลลี ถูกแทนที่ด้วย เจสซี ลินการ์ด อีกนัด ซึ่งก็สมควรแล้วที่เขาจะได้รับตำแหน่งนี้ จนกระทั่งพิจารณาจากฟอร์มการเล่นที่แสดงออกมาในฤดูกาลนี้

มันเป็นวลายาวนาน พร้อมกับนานเกินไปที่นักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดผู้นี้ถูกประเมินค่าต่ำจนเกินไปในสโมสรพร้อมทั้งกลุ่มชาติ แต่เขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เขานี่แหล่ะ คือนักเตะที่เหมาะกับเกมใหญ่

ลินการ์ด ทำไปแล้ว 14 ประตูรวมทุกรายการ ซึ่งหมายรวมถึงประตูชัยที่เพิ่งทำให้อังกฤษเอาชนะฮอลแลนด์เท่าที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย

ดังนั้น ไม่ต้องกังวลอะไรเลย เขาได้ตั๋วไปรัสเซียแน่นอน!

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

5 เรื่องราวควรรู้ เกม แมนฯยูฯ กลับด้านเชือด เชลซี

 

5 เรื่องจงรู้ เกม แมนฯยูฯ แพลงเชือด เชลซี

ทำประสบความสำเร็จจนได้สำหรับลูกทีมของโฆเซ มูรินโญ หลังจากพวกเขาถูกทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 การที่พวกเขาพลิกกลับมาชนะเชลซีได้ 2-1 ทำให้พวกเขาสามารถแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ได้อีกครั้งด้วย

ยังไงก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงข้อคิดเดียวที่เกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมตช์สุดมันวันอาทิตย์ และ 5 ข้อต่อไปนี้ก็คือ 5 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเกมดังที่กล่าวมาแล้วครับผม

5. วิลเลียน ขโมยซีน



สมมุติว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นพวกเอาชนะไปได้ 2-1 ในคืนที่ผ่านมา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการโชว์ฟอร์มของวิลเลียนในเกมนี้เอาเอาชนะปีกคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี มาร์กเซียล, อเล็กซิส ซานเชซ, เปโดร โรดริเกซ ไม่ใช่หรือแม้แต่เอเด็น อาซาร์

ประตูขึ้นนำในเกมนี้เริ่มมาจากการตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ เดิมเป็นวิลเลียนเองนี่แหละที่ทำบอลขึ้นมาในแดนแมนฯ ยู เล่นกัน 2 คนกับเอเด็น อาซาร์จนตกกับดักล้ำหน้าพร้อมทั้งกลายเป็นประตูในที่สุด

การเล่นอย่างหลักแหลมพร้อมด้วยความคมในการทำประตูของวิลเลียนไม่ใช่ส่วนบังเอิญ โดยตรงตัวแฟนบอลบาร์ซาน่าจะรู้ดีที่สุด

4. ลูกากู ยิงทีม Top 6 ได้ซะที

 



ชายผู้มีค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ผสานสัปดาห์ต้องเจอแรงกดดันมากในระยะหลัง เกี่ยวเนื่องมาจากสถิติอันย่ำแย่บางอย่างของเจ้าตัว

นั่นคือเขาไม่เคยยิงทีม Top 6 ได้เลย

เขาแตะต้องติว่าไม่ใช่ของจริง ยิงได้แต่ถ้าว่าทีมที่อ่อนกว่า ด้วยกันอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ประตูกับเชลซีในวันนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การลบสถิติออกเท่านั้น เท่านั้นยังเป็นการจัดโชว์ให้เห็นด้วยว่าเขามีสมาธิหน้าปากประตูมากขนาดไหน พร้อมด้วยคงไม่นานเกินรอที่เขาจะยิงทีม Top 6 ได้อีกครั้ง

3. ลินการ์ด ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกเยอะ



วัยรุ่นผู้เป็นพืชผลของอคาเดมีผีแดงผู้นี้เคยมีช่วงเวลาอันแนวหน้าอยู่ระยะหนึ่ง หลังซัดไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่ลงเล่น ก่อนจะเริ่มจางหายไปในที่สุด

ซึ่งวิกฤติของลินการ์ดก็ดูจะย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่ออเล็กซิส ซานเชซเดินทางมาถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เพราะแม้อเล็กซิสจะไม่ได้เล่นทับฐานะเขาโดยตรง แต่มันหมายความว่านักเตะที่มีฝีมือไล่เลี่ยกันพร้อมทั้งเล่นตำแหน่งใกล้เคียงกันต้องมีคู่แข่งมากขึ้น แรชฟอร์ดเอย มาร์กซิยาลเอย มาตาเอย นักเตะเหล่านี้แหละที่จะมาทับฐานันดรเขา

ไงก็ตาม วันนี้เป็นวันที่ลินการ์ดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขายังมีดีซ่อนอยู่อีก การสอดขึ้นมาโขกบอลโล่ง ๆ ทำให้เห็นความสามารถทัศน์ของการเป็นตัวทำประตูของเขา แถมการโหม่งก็ยังควบคุมทิศทางพร้อมกับแรงได้ดีอีกด้วย ต้องชมเขาล่ะ

2. แมนฯ ยูเริ่มหายใจได้ทั่วท้องบ้างแล้ว

 



ก่อนหน้าเกมนี้จะเริ่มขึ้น มีหลายฝ่ายมองว่าแมนฯ ยู มีสิทธิร่วงจากพื้นที่ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

ก็จะไม่ให้มองได้อย่างไร ก่อนหน้านี้นี้พวกเขาแพ้ทั้งสเปอร์สกับนิวคาสเซิล กลายร่างจากที่เป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ดี ๆ ตอนนี้เริ่มจะเป็นทีมลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับหากพวกเขาแพ้เชลซีอีก พวกเขาจะอยู่อันดับ 3 มีแต้มเท่าอันดับ 4 และนำอันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น

ความชนะในนัดนี้ส่งผลให้พวกเขาทิ้งเชลซีออกไปเป็น 6 คะแนน กับแม้ว่าพวกเขามีคิวแข้งกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่กลับเชลซีเองก็ต้องเจอกับซิตี้และลิเวอร์พูลเช่นกัน เติมให้สิงห์บลูยังต้องไปเจอสเปอร์สอีกด้วย ตอนนี้เราจึงกล้าพูดได้เลยว่างานของเชลซียังหนักกว่าเยอะ

1. สัญญาณของมิตรภาพ

 



อันโตนิโอ คอนเตกับโฆเซ มูรินโญเริ่มโดนคารมกันมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วและยิ่งมาหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้โอกาสที่ทั้งสองคนจะจับมือกันในสัปดาห์นี้ดูเป็นไปไม่ได้เลย

โดยอย่างเดียวเมื่อมูรินโญเดินไปจับมือกับนักเตะเชลซีทุกคนในอุโมงค์ก่อนเกมเริ่ม แต่ยังไม่ยอมจับมือกับคอนเต้ ในขณะที่คอนเต้เองก็พยายามจะเลี่ยงมูรินโญอยู่ตลอดเวลา

แต่เขาทั้งหลายก็จับมือกันจนได้จริง ๆ ถึงจะแป๊บเดียวก็เถอะ คงทำให้อัฟราม แกรนท์สบายใจขึ้นมาหน่อยละนะ

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

เช็คผลบอล "ชัคตาร์ฯ" เชือดนิ่ม "โรม่า" 2-1 ยูฟ่า ชปล.รอบ 16 ทีม

"ชัคตาร์ฯ" เชือดนิ่ม "โรม่า" 2-1 ยูฟ่า ชปล.รอบ 16 ทีม

 



การเสนอราคาบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก เป็นการเจอะกันในคู่ระหว่าง ชัคตาร์ โดเนตส์ค ออกจากยูเครน เปิดสนามเมตาลิสต์ สเตเดี้ยม รับมือกับ โรม่า จากอิตาลี

เปาโล ฟอนเซก้า ผู้จัดการทีมชัคตาร์ โดเนตส์ค ได้ ไทซอน ปีกซ้ายลอดต่อสู้ความฟิต เกมรุกหวังพึ่งทีเด็ด ฟากุนโด เฟร์เรย์ร่า รอสวนกลับ

ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ บิ๊กบอสอาแอส โรม่า ส่ง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ แบ็คขวาหายทันลงสนาม เกมรุกไว้ไว้วางใจ เซนกิส อุนแดร์ ดาวรุ่งเติร์กเล่นสามผสานร่วมกับ เอดิน เซโก้ และ ดิเอโก้ เปร็อตติ

ผลปรากฏว่า นาทีที่ 41 หมาป่าแห่งกรุงโรมได้ประตูขึ้นนำ จาก เจนกิซ อุนแดร์ พ้นเข้ามายิงด้วยซ้ายทั้งเป็นประตู ทำให้จบ 45 นาที โรม่า บุกมานำ ชัคตาร์ โดเนทส์ค 1-0

นาทีที่ 52 เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอจาก ฟากุนโด้ เฟร์เรย์ร่า แจะหนี คอสตาส มาโนลาส เข้าเขตโทษก่อนแปเข้าไปง่ายๆ สกอร์ผวนมาเท่ากันที่ 1-1

นาทีที่ 71 ทีมจากยูเครนได้ประตูแซงนำ 2-1 จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ กับเป็น เฟร็ด วิ่งเข้ามาปั่นเข้าประตูไป

จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ ผลบอล จบ 90 นาที ชัคตาร์ โดเนทส์ค เอาชนะ โรม่า 2-1 โดยทั้งสองทีมจะกลับมาพบกันที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก้ ในนัดสอง คืนวันอังคารที่ 13 มีนาคม 2.45 น. ตามเวลาประเทศไทย

5 ข้อแตะรู้ เกม แมนฯยูฯ กลับด้านเชือด เชลซี

 

5 หลักสำคัญจำเป็นจะต้องรู้ เกม แมนฯยูฯ กลับเชือด เชลซี

ทำได้ผลสำเร็จจนได้สำหรับลูกทีมของโฆเซ มูรินโญ หลังจากพวกเขาถูกทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 การที่พวกเขาเปลี่ยนมาชนะเชลซีได้ 2-1 ทำให้พวกเขารอบรู้แซงลิเวอร์พูลขึ้นไปอยู่ระดับ 2 ได้อีกครั้งด้วย

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงใจความเดียวที่เกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมตช์สุดมันวันอาทิตย์ และ 5 ข้อต่อไปนี้ก็คือ 5 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเกมดังที่กล่าวมาแล้วครับผม

5. วิลเลียน ขโมยซีน



ถึงแม้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นค่ายเอาชนะไปได้ 2-1 ในส่งกลับที่ผ่านมา แต่ไม่รับไม่ได้เลยว่าการโชว์ฟอร์มของวิลเลียนในเกมนี้เอาพิชิตปีกคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี มาร์กเซียล, อเล็กซิส ซานเชซ, เปโดร โรดริเกซ หรือไม่ก็แม้แต่เอเด็น อาซาร์

ประตูขึ้นนำในเกมนี้เริ่มมาจากการตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ เก่าเป็นวิลเลียนเองนี่แหละที่ทำบอลขึ้นมาในแดนแมนฯ ยู เล่นกัน 2 คนกับเอเด็น อาซาร์จนหลุดพ้นกับดักล้ำหน้าพร้อมด้วยกลายเป็นประตูในที่สุด

การเล่นอย่างฉลาดกับความคมในการทำประตูของวิลเลียนไม่ใช่ประเด็นบังเอิญ โดยเท่านั้นแฟนบอลบาร์ซาน่าจะรู้ดีที่สุด

4. ลูกากู ยิงทีม Top 6 ได้ซะที

 



ชายผู้มีค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ประสานรอยสัปดาห์ต้องเจอแรงกดดันมากในระยะหลัง สัมพันธ์มาจากสถิติอันย่ำแย่บางอย่างของเจ้าตัว

นั่นคือเขาไม่เคยยิงทีม Top 6 ได้เลย

เขาชอบตำหนิติเตียนว่าไม่ใช่ของจริง ยิงได้เฉพาะทีมที่อ่อนกว่า ด้วยกันอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ประตูกับเชลซีในวันนี้ไม่ใช่เป็นเหมือนแค่การลบสถิติออกเท่านั้น อย่างเดียวยังเป็นการสำแดงให้เห็นด้วยว่าเขามีสมาธิหน้าปากประตูมากขนาดไหน พร้อมทั้งคงไม่นานเกินรอที่เขาจะยิงทีม Top 6 ได้อีกครั้ง

3. ลินการ์ด ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกเยอะ



วัยรุ่นผู้เป็นผลิตภัณฑ์ของอคาเดมีผีแดงผู้นี้เคยมีช่วงเวลาอันเลิศเลออยู่ระยะหนึ่ง หลังซัดไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่ลงเล่น ก่อนจะเริ่มจางหายไปในที่สุด

ซึ่งวิกฤติของลินการ์ดก็ดูจะย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่ออเล็กซิส ซานเชซเดินทางมาถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เพราะแม้อเล็กซิสจะไม่ได้เล่นทับสภาพเขาโดยตรง แต่มันหมายความว่านักเตะที่มีฝีมือไล่เลี่ยกันพร้อมกับเล่นตำแหน่งใกล้เคียงกันต้องมีคู่แข่งมากขึ้น แรชฟอร์ดเอย มาร์กซิยาลเอย มาตาเอย นักฟุตบอลเหล่านี้แหละที่จะมาทับชั้นเขา

แบบก็ตาม วันนี้เป็นวันที่ลินการ์ดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขายังมีดีซ่อนอยู่อีก การสอดขึ้นมาโขกบอลโล่ง ๆ ทำให้เห็นพิสัยทัศน์ของการเป็นตัวทำประตูของเขา แถมการโหม่งก็ยังควบคุมทิศทางด้วยกันแรงได้ดีอีกด้วย ต้องชมเขาล่ะ

2. แมนฯ ยูเริ่มหายใจได้ทั่วท้องบ้างแล้ว

 



แต่ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น มีหลายฝ่ายมองว่าแมนฯ ยู มีสิทธิร่วงจากพื้นที่ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

ก็จะไม่ให้มองได้อย่างไร ก่อนหน้านี้นี้พวกเขาแพ้ทั้งสเปอร์สพร้อมทั้งนิวคาสเซิล กลายร่างลูกจากที่เป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ดี ๆ ตอนนี้เริ่มจะเป็นทีมลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยกันหากพวกเขาแพ้เชลซีอีก พวกเขาจะอยู่อันดับ 3 มีแต้มเท่าอันดับ 4 และนำอันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น

อัปราชัยในนัดนี้ส่งผลให้พวกเขาทิ้งเชลซีออกไปเป็น 6 คะแนน และแม้ว่าพวกเขามีคิวแข้งกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้กระนั้นเชลซีเองก็ต้องเจอกับซิตี้และลิเวอร์พูลเช่นกัน แถมพกสิงห์บลูยังต้องไปเจอสเปอร์สอีกด้วย ตอนนี้เราจึงกล้าพูดได้เลยว่างานของเชลซียังหนักกว่าเยอะ

1. สัญญาณของมิตรภาพ

 



อันโตนิโอ คอนเตกับโฆเซ มูรินโญเริ่มกระแทกคารมกันมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วพร้อมทั้งยิ่งมาหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้โอกาสที่ทั้งสองคนจะจับมือกันในสัปดาห์นี้ดูเป็นไปไม่ได้เลย

โดยตรงตัวเมื่อมูรินโญเดินไปจับมือกับนักเตะเชลซีทุกคนในอุโมงค์ก่อนเกมเริ่ม แต่ยังไม่ยอมจับมือกับคอนเต้ ในขณะที่คอนเต้เองก็พยายามจะเลี่ยงมูรินโญอยู่ตลอดเวลา

แต่พวกเขาก็จับมือกันจนได้จริง ๆ ถึงจะแป๊บเดียวก็เถอะ คงทำให้อัฟราม แกรนท์สบายใจขึ้นมาหน่อยละนะ

5 ใจความสำคัญสัมผัสรู้ เกม แมนฯยูฯ แพลงเชือด เชลซี

 

5 ใจความสำคัญจำเป็นรู้ เกม แมนฯยูฯ กลับเชือด เชลซี

ทำเกิดผลจนได้สำหรับสมาชิกของโฆเซ มูรินโญ หลังจากพวกเขาถูกทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 การที่พวกเขากลับตาลปัตรมาชนะเชลซีได้ 2-1 ทำให้พวกเขาอาจจะแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปอยู่ระดับ 2 ได้อีกครั้งด้วย

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงส่วนเดียวที่เกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมตช์สุดมันวันอาทิตย์ และ 5 ข้อต่อไปนี้ก็คือ 5 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเกมดังที่กล่าวมาแล้วครับผม

5. วิลเลียน ขโมยซีน



มาตรแม้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นคณะเอาชนะไปได้ 2-1 ในคืนที่ผ่านมา แต่ปิดประตูไม่ได้เลยว่าการโชว์ฟอร์มของวิลเลียนในเกมนี้เอาเอาชนะปีกคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี มาร์กเซียล, อเล็กซิส ซานเชซ, เปโดร โรดริเกซ ไม่ใช่หรือแม้แต่เอเด็น อาซาร์

ประตูขึ้นนำในเกมนี้เริ่มมาจากการตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ เดิมเป็นวิลเลียนเองนี่แหละที่ทำบอลขึ้นมาในแดนแมนฯ ยู เล่นกัน 2 คนกับเอเด็น อาซาร์จนหลวมกับดักล้ำหน้าพร้อมด้วยกลายเป็นประตูในที่สุด

การเล่นอย่างหลักแหลมพร้อมทั้งความคมในการทำประตูของวิลเลียนไม่ใช่ถ้อยคำบังเอิญ โดยเพ่งตรงแฟนบอลบาร์ซาน่าจะรู้ดีที่สุด

4. ลูกากู ยิงทีม Top 6 ได้ซะที

 



ชายผู้มีค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์บัดกรีสัปดาห์ต้องเจอแรงกดดันมากในระยะหลัง เกี่ยวพันมาจากสถิติอันย่ำแย่บางอย่างของเจ้าตัว

นั่นคือเขาไม่เคยยิงทีม Top 6 ได้เลย

เขาชอบติว่าไม่ใช่ของจริง ยิงได้แต่ถ้าว่าทีมที่อ่อนกว่า พร้อมทั้งอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ประตูกับเชลซีในวันนี้ไม่ใช่เป็นเท่าแค่การลบสถิติออกเท่านั้น แม้กระนั้นยังเป็นการส่อให้เห็นด้วยว่าเขามีสมาธิหน้าปากประตูมากขนาดไหน พร้อมทั้งคงไม่นานเกินรอที่เขาจะยิงทีม Top 6 ได้อีกครั้ง

3. ลินการ์ด ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกเยอะ



วัยรุ่นผู้เป็นผลิตภัณฑ์ของอคาเดมีผีแดงผู้นี้เคยมีช่วงเวลาอันชั้นนำอยู่ระยะหนึ่ง หลังซัดไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่ลงเล่น ก่อนจะเริ่มจางหายไปในที่สุด

ซึ่งอันตรายของลินการ์ดก็ดูจะย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่ออเล็กซิส ซานเชซเดินทางมาถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เพราะแม้อเล็กซิสจะไม่ได้เล่นทับระวางเขาโดยตรง แต่มันหมายความว่านักเตะที่มีฝีมือไล่เลี่ยกันพร้อมด้วยเล่นตำแหน่งใกล้เคียงกันต้องมีคู่แข่งมากขึ้น แรชฟอร์ดเอย มาร์กซิยาลเอย มาตาเอย นักเตะเหล่านี้แหละที่จะมาทับระวางเขา

ยังไงก็ตาม วันนี้เป็นวันที่ลินการ์ดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขายังมีดีซ่อนอยู่อีก การสอดขึ้นมาโขกบอลโล่ง ๆ ทำให้เห็นพิสัยทัศน์ของการเป็นตัวทำประตูของเขา แถมการโหม่งก็ยังควบคุมทิศทางพร้อมทั้งแรงได้ดีอีกด้วย ต้องชมเขาล่ะ

2. แมนฯ ยูเริ่มหายใจได้ทั่วท้องบ้างแล้ว

 



ก่อนหน้าเกมนี้จะเริ่มขึ้น มีหลายฝ่ายมองว่าแมนฯ ยู มีสิทธิร่วงจากพื้นที่ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

ก็จะไม่ให้มองได้อย่างไร แต่ก่อนนี้พวกเขาแพ้ทั้งสเปอร์สกับนิวคาสเซิล กลายร่างลูกจากที่เป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ดี ๆ ตอนนี้เริ่มจะเป็นทีมลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับหากพวกเขาแพ้เชลซีอีก พวกเขาจะอยู่อันดับ 3 มีแต้มเท่าอันดับ 4 และนำอันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น

ความสำเร็จในนัดนี้ส่งผลให้พวกเขาทิ้งเชลซีออกไปเป็น 6 คะแนน พร้อมกับแม้ว่าพวกเขามีคิวแข้งกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเดียวเชลซีเองก็ต้องเจอกับซิตี้และลิเวอร์พูลเช่นกัน เพิ่มสิงห์บลูยังต้องไปเจอสเปอร์สอีกด้วย ตอนนี้เราจึงกล้าพูดได้เลยว่างานของเชลซียังหนักกว่าเยอะ

1. สัญญาณของมิตรภาพ

 



อันโตนิโอ คอนเตกับโฆเซ มูรินโญเริ่มปะทะคารมกันมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วและยิ่งมาหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้โอกาสที่ทั้งสองคนจะจับมือกันในสัปดาห์นี้ดูเป็นไปไม่ได้เลย

โดยเท่านั้นเมื่อมูรินโญเดินไปจับมือกับนักเตะเชลซีทุกคนในอุโมงค์ก่อนเกมเริ่ม แต่ยังไม่ยอมจับมือกับคอนเต้ ในขณะที่คอนเต้เองก็พยายามจะเลี่ยงมูรินโญอยู่ตลอดเวลา

แต่พวกเขาก็จับมือกันจนได้จริง ๆ ถึงจะแป๊บเดียวก็เถอะ คงทำให้อัฟราม แกรนท์สบายใจขึ้นมาหน่อยละนะ

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561

5 ใจความสำคัญจำเป็นต้องรู้ เกม แมนฯยูฯ กลับด้านเชือด เชลซี

 

5 เหตุการณ์จงรู้ เกม แมนฯยูฯ พลิกเชือด เชลซี

ทำได้ผลสำเร็จจนได้สำหรับสมาชิกของโฆเซ มูรินโญ หลังจากพวกเขาถูกทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 การที่พวกเขากลับตาลปัตรมาชนะเชลซีได้ 2-1 ทำให้พวกเขาเก่งแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปอยู่อนุกรม 2 ได้อีกครั้งด้วย

ประการใดก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงส่วนเดียวที่เกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมตช์สุดมันวันอาทิตย์ และ 5 ข้อต่อไปนี้ก็คือ 5 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเกมดังที่กล่าวมาแล้วครับผม

5. วิลเลียน ขโมยซีน



ถ้าแม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-1 ในส่งคืนที่ผ่านมา แต่ไม่ยอมรับไม่ได้เลยว่าการโชว์ฟอร์มของวิลเลียนในเกมนี้เอาพิชิตปีกคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี มาร์กเซียล, อเล็กซิส ซานเชซ, เปโดร โรดริเกซ หรือแม้แต่เอเด็น อาซาร์

ประตูขึ้นนำในเกมนี้เริ่มมาจากการตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก่อนเป็นวิลเลียนเองนี่แหละที่ทำบอลขึ้นมาในแดนแมนฯ ยู เล่นกัน 2 คนกับเอเด็น อาซาร์จนร่วงกับดักล้ำหน้าด้วยกันกลายเป็นประตูในที่สุด

การเล่นอย่างฉลาดพร้อมกับความคมในการทำประตูของวิลเลียนไม่ใช่หลักสำคัญบังเอิญ โดยเจาะจงแฟนบอลบาร์ซาน่าจะรู้ดีที่สุด

4. ลูกากู ยิงทีม Top 6 ได้ซะที

 



ชายผู้มีค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์แด่สัปดาห์ต้องเจอแรงกดดันมากในระยะหลัง เนื่องมาจากสถิติอันย่ำแย่บางอย่างของเจ้าตัว

นั่นคือเขาไม่เคยยิงทีม Top 6 ได้เลย

เขาควรตำหนิว่าไม่ใช่ของจริง ยิงได้เท่านั้นทีมที่อ่อนกว่า กับอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ประตูกับเชลซีในวันนี้ไม่ใช่เป็นปางแค่การลบสถิติออกเท่านั้น อย่างไรก็ดียังเป็นการหมายให้เห็นด้วยว่าเขามีสมาธิหน้าปากประตูมากขนาดไหน และคงไม่นานเกินรอที่เขาจะยิงทีม Top 6 ได้อีกครั้ง

3. ลินการ์ด ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกเยอะ



ดรุณผู้เป็นพืชผลของอคาเดมีผีแดงผู้นี้เคยมีช่วงเวลาอันแนวหน้าอยู่ระยะหนึ่ง หลังซัดไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่ลงเล่น ก่อนจะเริ่มจางหายไปในที่สุด

ซึ่งร้ายแรงของลินการ์ดก็ดูจะย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่ออเล็กซิส ซานเชซเดินทางมาถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เพราะแม้อเล็กซิสจะไม่ได้เล่นทับระวางเขาโดยตรง แต่มันหมายความว่านักเตะที่มีฝีมือไล่เลี่ยกันกับเล่นตำแหน่งใกล้เคียงกันต้องมีคู่แข่งมากขึ้น แรชฟอร์ดเอย มาร์กซิยาลเอย มาตาเอย นักฟุตบอลเหล่านี้แหละที่จะมาทับยศเขา

ยังไงก็ตาม วันนี้เป็นวันที่ลินการ์ดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขายังมีดีซ่อนอยู่อีก การสอดขึ้นมาโขกบอลโล่ง ๆ ทำให้เห็นวิสัยทัศน์ของการเป็นตัวทำประตูของเขา แถมการโหม่งก็ยังควบคุมทิศทางพร้อมด้วยแรงได้ดีอีกด้วย ต้องชมเขาล่ะ

2. แมนฯ ยูเริ่มหายใจได้ทั่วท้องบ้างแล้ว

 



เมื่อก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น มีหลายฝ่ายมองว่าแมนฯ ยู มีสิทธิร่วงจากพื้นที่ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

ก็จะไม่ให้มองได้อย่างไร ก่อนหน้านี้นี้พวกเขาแพ้ทั้งสเปอร์สพร้อมทั้งนิวคาสเซิล กลายร่างผละที่เป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ดี ๆ ตอนนี้เริ่มจะเป็นทีมลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมทั้งหากพวกเขาแพ้เชลซีอีก พวกเขาจะอยู่อันดับ 3 มีแต้มเท่าอันดับ 4 และนำอันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น

ความชนะในนัดนี้ส่งผลให้พวกเขาทิ้งเชลซีออกไปเป็น 6 คะแนน ด้วยกันแม้ว่าพวกเขามีคิวแข้งกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ทว่าเชลซีเองก็ต้องเจอกับซิตี้และลิเวอร์พูลเช่นกัน แถมพกสิงห์บลูยังต้องไปเจอสเปอร์สอีกด้วย ตอนนี้เราจึงกล้าพูดได้เลยว่างานของเชลซียังหนักกว่าเยอะ

1. สัญญาณของมิตรภาพ

 



อันโตนิโอ คอนเตกับโฆเซ มูรินโญเริ่มประสานงาคารมกันมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วกับยิ่งมาหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้โอกาสที่ทั้งสองคนจะจับมือกันในสัปดาห์นี้ดูเป็นไปไม่ได้เลย

โดยอย่างเดียวเมื่อมูรินโญเดินไปจับมือกับนักเตะเชลซีทุกคนในอุโมงค์ก่อนเกมเริ่ม แต่ยังไม่ยอมจับมือกับคอนเต้ ในขณะที่คอนเต้เองก็พยายามจะเลี่ยงมูรินโญอยู่ตลอดเวลา

แต่เขาทั้งหลายก็จับมือกันจนได้จริง ๆ ถึงจะแป๊บเดียวก็เถอะ คงทำให้อัฟราม แกรนท์สบายใจขึ้นมาหน่อยละนะ

วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

ผลบอลสด "ชัคตาร์ฯ" เชือดนิ่ม "โรม่า" 2-1 ยูฟ่า ชปล.รอบ 16 ทีม

"ชัคตาร์ฯ" เชือดนิ่ม "โรม่า" 2-1 ยูฟ่า ชปล.รอบ 16 ทีม

 



การทดลองฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก เป็นการพบพานกันในคู่ระหว่าง ชัคตาร์ โดเนตส์ค จากยูเครน เปิดสนามเมตาลิสต์ สเตเดี้ยม กำราบกับ โรม่า จากอิตาลี

เปาโล ฟอนเซก้า ผู้จัดการทีมชัคตาร์ โดเนตส์ค ได้ ไทซอน ปีกซ้ายข้ามประลองความฟิต เกมรุกหวังพึ่งทีเด็ด ฟากุนโด เฟร์เรย์ร่า รอสวนกลับ

ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ บิ๊กบอสอาแอส โรม่า ส่ง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ แบ็คขวาหายทันลงสนาม เกมรุกไว้ศรัทธา เซนกิส อุนแดร์ ดาวรุ่งเติร์กเล่นสามแนบร่วมกับ เอดิน เซโก้ และ ดิเอโก้ เปร็อตติ

ผลปรากฏว่า นาทีที่ 41 หมาป่าแห่งกรุงโรมได้ประตูขึ้นนำ จาก เจนกิซ อุนแดร์ พ้นเข้ามายิงด้วยซ้ายดำรงฐานะประตู ทำให้จบ 45 นาที โรม่า บุกมานำ ชัคตาร์ โดเนทส์ค 1-0

นาทีที่ 52 เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอจาก ฟากุนโด้ เฟร์เรย์ร่า แตะหนี คอสตาส มาโนลาส เข้าเขตโทษก่อนแปเข้าไปง่ายๆ สกอร์ผกผวนมาเท่ากันที่ 1-1

นาทีที่ 71 ทีมจากยูเครนได้ประตูแซงนำ 2-1 จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ด้วยกันเป็น เฟร็ด วิ่งเข้ามาปั่นเข้าประตูไป

จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ ผลบอล จบ 90 นาที ชัคตาร์ โดเนทส์ค เอาชนะ โรม่า 2-1 โดยทั้งสองทีมจะกลับมาพบกันที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก้ ในนัดสอง คืนวันอังคารที่ 13 มีนาคม 2.45 น. ตามเวลาประเทศไทย